วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สมุนไพรแก้จุกเสียด

ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma longa Linn
วงศ์ Zingiberaceae
ชื่อท้องถิ่น ขมิ้น (ทั่วไป) หมิ้น (ภาคใต้)

ลักษณะของพืช »
ขมิ้นเป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวใบรูปเรียวยาว ดอกออกเป็นช่อ มีก้านช่อแทงออกมาจากเหง้าโดยตรง ดอกสีขาวอมเหลือง
ส่วนที่ใช้เป็นยา »เหง้าสดหรือแห้ง
การปลูก »
ขมิ้นชอบอากาศค่อนข้างร้อนและมีความชุ่มชื้นในเวลากลางคืน วิธีปลูกใช้เหง้าแก่ที่อายุได้11 - 12 เดือน ทำพันธุตัดออกเป็นท่อนละ 1-2 ตา ปลูกลงแปลงหลังจาก7 วันรากก็จะเริ่มงอกควรลดน้ำทุกวัน หลังจากนั้นเมื่อขมิ้นมีอายุได้ 9-10 เดือนจึงจะขุดเอามาใช้ได้
รสและสรรพคุณยาไทย »รสฝาด กลิ่นหอม แก้โรคผิวหนัง ขับลม แก้ผื่นคัน แก้ท้องร่วง
ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา »
เก็บในช่วงอายุ 9-10 เดือน

วิธีใช้ »
อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด และอาหารไม่ย่อยทำโดยล้างขมิ้นให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ดขนาดปลายนิ้วก้อย กินครั้งละ 2-3 เม็ด วันละ 3 -4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แต่บางคนเมื่อกินยานี้แล้วแน่นจุกเสียดให้หยุดกินยานี้
คุณค่าทางอาหาร »
เหง้าขมิ้นพบว่ามี วิตามิน เอ วิตามิน ซีนอกจากนั้นยังมีเกลือแร่ต่างๆอีกพอสมควร เป็นเครื่องปรุงรส แต่งสีได้ดีมาก

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ »
เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญ เป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้มที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcumin จากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดี น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน มีความปลอดภัยสูง

สมุนไพรเพื่อสมอง



ชีวิตที่เร่งรีบในยุคนี้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย หนึ่งในปัญหาเหล่านั้นก็คือ ความจำเสื่อม
ซึ่งอาจจะเป็นโรคหรือไม่เป็นก็ได้ การทำงานที่ใช้สมองมากขึ้น ประกอบกับการรับประทานอาหารที่ผิดเพื้ยนไป จากอาหารปกติ รวมถึงการขาดสารอาหารบางชนิดส่งผลให้เซลล์สมอง ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เซลล์สมองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องความจำหลายคนก็จะคิดถึงการบำรุงสมอง โดยวิตามินและเกลือแร่ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด แต่ปัจจุบันได้มีการนำสมุนไพรหลายชนิดมาใช้เพื่อบำรุงสมอง
โรคความจำเสื่อมเกือบทุกชนิดจะเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของเซลล์สมอง ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่าการลดความเสื่อมจะมุ่งไปที่การป้องกันการตายของเซลล์สมองไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม
สมุนไพรที่ช่วยในเรื่องของความจำ ถ้าจะว่าไปแล้วก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งในที่นี้จะได้กล่าวถึงบางชนิดเท่านั้น
1. Gingko Biloba
เป็นสมุนไพรจีนที่นิยมใช้กันมานานกว่าพันปีแล้ว สารสำคัญกลุ่ม Flavoglycosides มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดซึ่งผลที่ตามมาก็คือ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง ทำให้เซลล์สมองได้รับสารอาหารและอ๊อกซิเจนมากขึ้น 1 ในทางกลับกันของเสียที่มีอยู่ในเซลล์ ก็จะถูกกำจัดออกจากเซลล์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารสำคัญในแปะก๊วยยังช่วยลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะเส้นเลือดที่มีขนาดเล็ก คุณสมบัติในการลดเกร็ดเลือดนี้ไม่ดี สำหรับผู้ที่เลือดหยุดไหลช้า ผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัดหรือผ่าตัดแล้ว (6 เดือน) และผู้ที่มีประวัติเส้นเลือดในสมองแตก
2. Gotu Kola
เป็นพืชที่พบได้มากในบ้านเรา ประโยชน์ทางด้านการบำรุงสมองเกิดจากการเพิ่มความแข็งแรง ของหลอดเลือดเป็นผลให้หลอดเลือดเล็ก ๆ มีความสมบูรณ์ซึ่งก็ทำให้การลำเลียงอาหาร และอ๊อกซิเจนไปยังเซลล์สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารในกลุ่ม triterpenes มีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการกระตุ้น cholinergic mechanism ในร่างกายช่วยให้ลดความเครียดและความกังวลหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น 2 นั่นเอง
3. Ginseng
โสมจะมีผลทางอ้อมต่อความจำนั้นก็คือจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน จากต่อมหมวกไตซึ่งจะทำให้ลดความเครียด ที่เป็นสาเหตุของการตายของเซลล์สมองได้ 3